Monday, January 14, 2008

ฝัน

.แสงอ่อนๆของวันใหม่เริ่มฉายที่จุดตัดของน้ำกับฟ้า เกิดการหักเหของแสงส่งสีประหลาดเข้าที่รูม่านตา ลมอุ่นๆเลียผิวแก้มเหมือนเป็นการชวนให้ตื่นมาทักทายกัน กลิ่นเค็มๆที่คุ้นเคย เวลานี้ช่างแสนวิเศษ...ใจนึงก้อยากจะนอนซุกผ้าห่มใช้เวลาในห้วงคำนึงมากขึ้นอีกหน่อย แต่ก็อดเสียดายภาพสวยงามในยามเช้าของทะเลไม่ได้..ทำให้ต้องลุกขึ้นมาในที่สุด อากาศยามเช้ายังไม่ร้อนนัก แค่พออุ่นๆ
ฉันลุกจากเตียงไปนั่งที่เก้าอี้ชายหาดหน้าบ้านบนหาดทรายพร้อมกัน ขวดน้ำและบุหรี่1ตัว คาบไว้ที่ปาก
..จุดไฟแล้วสูบควันเข้าไปพอให้รู้สึกดี....เช้านี้ก็สวยงามเหมือนเคย

..หลังจากล้างหน้าล้างตาแปรงฟันแล้ว ฉันก็ตรงรี่ไปที่ร้านอาหารริมทะเลที่ติดกับบ้านพัก เวลานี้ไม่มีอะไรดีไปกว่า กาแฟร้อนๆหอมๆ กับบุหรี่อีกสักตัว Postcard ที่เตรียมเอาไว้ คิดว่าจะเขียนหาใครๆกองอยู่ตรงหน้า..กาแฟหมดไปครึ่งแก้วแล้ว ฉันยังคงทอดอารมณ์อยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิม มองออกไป..

..ชีวิตของเราต้องการอะไรหนอ ความสุขของมนุษย์คือที่ตรงไหนหนอ ความฟุ้งซ่านเดิมๆกลับเข้ามาในความคิด ฉันมักฟุ้งซ่านเรื่องที่ไม่มีคำตอบเสมอ บางทีก็ใช้เวลาหมกมุ่นอยู่กับมันนานสองนาน ทั้งๆที่สุดท้าย เราก็บอกตัวเองว่า อย่าไปคิดมาก แค่ปล่อยมันไป ฉันแค่อยากใช้เวลาในชีวิตให้มีความสุขในแบบที่ฉันต้องการ ได้ท่องเที่ยวเหนสิ่งสวยงาม ได้พบคนที่น่าสนใจ ได้มีเพื่อนที่ดี ได้มีความรักที่ดี ได้ทำในสิ่งที่รัก เพียงแค่นี้ก็เพียงพอ...อย่างเช่นเวลานี้ มันเป้นอีกหนึ่งในความสำราญในชีวิตที่ไม่มีวันหมดอายุ
นั่นคือการได้นั่งมองทะเลปล่อยใจไปเรื่อยๆแบบนี้...
..ฉันก้มลงมองPostcardตรงหน้า แล้วลองนึกว่าจะเขียนอะไร มีเรื่องมากมายที่ฉันอยากจะเขียน
มีคนที่ฉํนคิดถึง มีภาพต่างๆที่ฉันอยากจะถ่ายเก็บเอาไว้...แต่ในที่สุด ฉันก็ไม่ได้เขียนPostcardสักใบ ถึงใครสักคน หรือแม้แต่ ถ่ายรูปก็ไม่ได้ถ่ายไว้มากมายนัก..

...ความรู้สึกบางอย่างบอกกับฉันว่า ฉันไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือในการส่งสารในเวลานี้ เพราะฉันได้ส่งมันไปถึงแล้ว ณ เวลาที่ฉันได้คิดถึงเขา ฉันไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือในการบันทึกภาพ เพราะฉันได้บันทึกมันแล้วด้วยดวงตาและประทับมันเอาไว้ในความทรงจำ เพียงแค่นี้ก็พอแล้วสำหรับฉัน..

..บุหรี่ไหม้จนถึงก้นกรองแล้วแต่ฉันไม่ได้สูบ แดดยามสายเริ่มอุ่นขึ้น อันที่จริงมันเรียกว่าร้อนได้เลย
ฉันลุกขึ้นเดินกลับไปที่บ้านพัก แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ชายหาดตัวเดิม ค่อยๆเอนตัวลง มองออกไป
ลมอุ่นๆพัดเอาเศษทรายเข้ามาที่ตาฉัน ฉันหลับตาลง...น้ำตาไหล

1 Comments:

Blogger kling said...

ใช่ ..
สองสายตาและหนึ่งสมองที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนกล้องวีดิโอขนาดย่อม คอยบันทึกเรื่องราวอันหลากหลาย ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
ใช่ ..
หากแต่สิ่งที่เราจะจดจำนั้นไม่ใช่ทั้งสองสายตาและหนึ่งสมอง
ใช่ ..

สิ่งนั้นเรียก 'หัวใจ'

ใช่
หัวใจ ใช่ มันเรียก หัวใจ ใช่..

หรือ ไม่ใช่?

April 1, 2008 at 10:51 AM  

Post a Comment

Subscribe to Post Comments [Atom]

<< Home